วันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2557

เที่ยวในไทย

     10 สุดยอด แหล่งท่องเที่ยวไทย ในดวงใจ


อันดับ 1 ภูกระดึง 

          ความหลากหลายของทิวทัศน์ พรรณไม้ สายน้ำ ทำให้ภูกระดึงครองใจนักเดินทางผู้รักธรรมชาติทุกยุคทุกสมัย

          อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จังหวัดเลย คืออุทยานแห่งชาติลำดับ 2 ของประเทศไทย เป็นโรงเรียนแห่งแรกของนักเดินทางผู้นิยมธรรมชาติหลายต่อหลายรุ่น ตำนานเล่าว่า นายพรานคนหนึ่งติดตามล่าสัตว์ขึ้นไปจนพบดินแดนอันงดงามเหมือนสรวงสวรรค์แห่งนี้ บนยอดตัดของภูเขาหินทรายสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 400 - 1,200 เมตร รูปทรงเหมือนกระดึง มีพื้นที่ราบบนยอดเขากว้างใหญ่คล้ายรูปใบบอน เป็นแหล่งต้นน้ำของลำน้ำพอง อากาศค่อนข้างเย็นตลอดปี เปิดฤดูการท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมถึงวันที่ 31 พฤษภาคมของทุกปี และปิดฤดูการท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนถึงวันที่ 30 กันยายน เพื่อให้ป่าได้คืนสภาพ




แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ

          บนภูกระดึงนอกเหนือจากภูมิประเทศแปลกตาด้วยทิวสนเรียงรายบนที่ราบบนยอดภูอันกว้างใหญ่แล้ว ยังมีหน้าผาอันเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่งดงามอีกหลายแห่งด้วยกัน โดยทางทิศตะวันออกมี ผานกแอ่น เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น อยู่ห่างจากที่ทำการประมาณ 2 กิโลเมตร ทางทิศตะวันตกมี ผาหล่มสัก เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกได้อย่างชัดเจนที่สุด อยู่ห่างจากที่ทำการประมาณ 9 กิโลเมตร เป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมด้วยชะง่อนหินยื่นออกไปกับต้นสนริมผาโดยมี ผาแดง ผาเหยียบเมฆ ผานาน้อย ผาจำศีล และ ผาหมากดูก เป็นทางเลือกที่เรียงรายบนเส้นทางให้แวะชมพระอาทิตย์ตกได้สวยงามไม่แพ้กันอีกด้วย

          และด้วยความที่เป็นต้นน้ำ บนภูกระดึงจึงมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นแหล่งน้ำอยู่มากเช่นกัน อย่างสระแก้ว ต้นสายของลำธารสวรรค์ สระอโนดาต บึงน้ำขนาดใหญ่ จุดกำเนิดธารพระองค์ที่ไหลลงหน้าผากลายเป็น น้ำตกพระองค์ น้ำตกที่น่าสนใจบนภูกระดึง ได้แก่ น้ำตกวังกวาง ผาหินตัดขวางลำธาร ฝูงกวางมักจะลงมากินน้ำอยู่เสมอ เป็นที่มาของชื่อน้ำตก น้ำตกเพ็ญพบใหม่ เกิดจากลำธารวังกวาง หน้าหนาวจะเห็นใบเมเปิลร่วงหล่นปกคลุมผืนน้ำเป็นสีแดง น้ำตกถ้ำใหญ่ ร่มรื่นด้วยพรรณไม้ ช่วงต้นมกราคมทั่วบริเวณจะแดงฉานด้วยใบเมเปิลเกลื่อนพื้นป่า น้ำตกธารสวรรค์ น้ำตกขนาดเล็กบรรยากาศสวยงาม น้ำตกโผนพบ น้ำตก 8 ชั้น สูงประมาณ 30 เมตร โผน กิ่งเพชร อดีตแชมป์โลกมวยสากลคนแรกของไทยเป็นผู้ค้นพบเมื่อครั้งขึ้นไปฝึกซ้อมบนภูกระดึง น้ำตกสอเหนือ เป็นน้ำตกชั้นเดียว สูง 10 เมตร และน้ำตกสอใต้ อยู่ในลำธารสายเดียวกับน้ำตกสอเหนือ


อันดับ 2 ดอยอินทนนท์

          สุดยอดขุนเขาสูงสุดในสยามนามดอยอินทนนท์ งดงามด้วยพรรณพฤกษาและบรรยากาศเทือกดอยหนาวเย็นดึงดูดใจ

          อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 6 ของประเทศไทย มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 482 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม อำเภอจอมทอง และอำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ สภาพเทือกเขาสลับซับซ้อน เป็นส่วนหนึ่งของแนวเขตเทือกเขาถนนธงชัย ที่ทอดตัวแนวเหนือ-ใต้ ต่อเนื่องมาจากเทือกเขาหิมาลัยในประเทศเนปาล มีความสูงตั้งแต่ 400-2,565 เมตร จากกระดับน้ำทะเลปานกลาง โดยมียอดดอยอินทนนท์เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย




          แต่เดิมดอยอินทนนท์มีชื่อว่า "ดอยหลวง" หรือ "ดอยอ่างกา" ในสมัยพระเจ้าอินทวิชยานนท์เป็นเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ ทรงเห็นความสำคัญของป่าไม้เป็นอันมาก โดยเฉพาะบนดอยหลวง ถึงกับทรงมีรับสั่งว่าหากพระองค์สิ้นพระชนม์ให้แล่งเอาพระอัฐิส่วนหนึ่งไปบรรจุไว้ ภายหลังจึงได้สร้างสถูปบรรจุพระอัฐิของพระเจ้าอินทวิชยานนท์ไว้บนยอดดอยหลวง และเปลี่ยนชื่อเป็น "ดอยอินทนนท์"ตามพระนามแต่นั้นมา

แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ

          เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา เป็นเส้นทางเที่ยวชมป่าดิบเขาระดับสูง มีพรรณไม้เขตอบอุ่นผสมกับเขตร้อน โดยในช่วงหน้าหนาวจะพบกุหลาบพันปีออกดอกบานสะพรั่ง ส่วนในหน้าร้อนจะพบข้าวตอกฤาษี ระยะทางประมาณ 360 เมตร ใช้เวลาเดินชมประมาณ 20 นาที


          เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน เป็นป่าดิบและทุ่งหญ้าที่ฟื้นฟูสภาพจากป่าที่ถูกทำลาย มีทิวทัศน์ของผาหินที่สวยงาม บนเส้นทางตระการตาด้วยกุหลาบพันปีเรียงราย ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินชมประมาณ 2 ชั่วโมง


          พระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ เจดีย์สถานปัตยกรรมแบบไทยประยุกต์ สร้างถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสเจริญพระชนมพรรษา 5 รอบ ในปี พ.ศ.2530 และ พ.ศ.2535 ตั้งอยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 41.5 ก่อนถึงยอดดอยอินทนนท์


         น้ำตกแม่ยะ น้ำตกขนาดใหญ่มีความสูง 260 เมตร เป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทยด้วยสายธารที่แผ่กว้างไปทั่วหน้าผาหินลาดสูงชัน ตั้งอยู่ริมถนนสายจอมทอง-ฮอด โดยมีทางแยกขวาออกไป


อันดับ 3 ดอยตุง


      

ดอยตุง โดยเด่นด้วยหลากสีสันบุปผาชาตินานาพรรณที่สะพรั่งบานทุกฤดูกาลในส่วนแม่ฟ้าหลวง

          ดอยตุงอยู่ในเขตพื้นที่อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ขึ้นไปทางเหนือจากตัวเมืองเชียงรายประมาณ 45 กิโลเมตร แต่เดิมเป็นเทือกเขาป่าเสื่อมโทรม เนื่องจากถูกชาวเขาตัดทำลาย กระทั่งสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีได้เสด็จพระราชดำเนินมาทอดพระเนตรเห็นและมีพระราชดำรัสว่า "ฉันจะปลูกป่าดอยตุง" จึงได้มีการจัดทำโครงการพัฒนาดอยตุงขึ้นในปี พ.ศ.2530 ปลูกป่ากลับคืนสู่ธรรมชาติ ไม่นานดอยตุงก็คืนสภาพเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์อีกครั้ง และกลับกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นที่สุดของเชียงราย


แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ

          พระตำหนักดอยตุง สร้างขึ้นด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมล้านนากับบ้านไม้ซุงพื้นเมืองแบบสวิตเซอร์แลนด์ โดยพระราชทานแนวพระราชดำริให้เน้นความเรียบง่ายและใช้ประโยชน์ได้ดี ภายนอกพระตำหนักสดสวยสะพรั่งไปด้วยไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาวนานาพรรณที่สวยงามและสดชื่นตลอดปี


          สวนแม่ฟ้าหลวง เป็นสวนไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาวสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2535 บนพื้นที่ประมาณ 12 ไร่ ใกล้พระตำหนักดอยตุง จัดแต่แปลงไม้ดอกหลากหลายพันธุ์นับหมื่นดอก หมุนเวียนให้สวยงามไม่ซ้ำกันใน 3 ฤดู กลางสวนมีประติมากรรมเด็กที่ได้รับพระราชทานชื่อว่า "ความต่อเนื่อง" ปัจจุบันสวนแม่ฟ้าหลวงได้ขยายพื้นที่เพิ่มอีก 13 ไร่ เป็นสวนหินสวนน้ำ และสวนไม้ประดับ รวมเนื้อที่สวนแม่ฟ้าหลวงทั้งหมดเป็น 25 ไร่


          สวนรุกขชาติแม่ฟ้าหลวง ดอยช้างมูบ ปี พ.ศ. 2535 มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงได้สร้างสวนรุกชาติบนพื้นที่ 250 ไร่ บนดอยช้างมูบ โดยรวบรวมพรรณไม้พื้นเมืองและพรรณไม้ป่าหายากจากแหล่งต่าง ๆ ไว้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะต้นกุหลาบพันปีนอกจากนั้น ยังมีต้นนางพญาเสือโคร่งที่ให้ดอกออกใบหลากสีตลอดปี มีทางเดินลัดเลาะไปตามไหล่เขาสำหรับชมต้นไม้ดอกไม้ มีลานปิกนิก ศาลานั่งพักผ่อน ระเบียงชมวิวซึ่งมองเห็นดินแดนพม่า แม่น้ำโขง ไปจนถึงฝั่งลาว และน้ำผุดที่มีชื่อว่า "น้ำพระทัย" อันหมายถึงน้ำพระราชหฤทัยของสมเด็จย่าที่หลั่งรินไม่เหือดแห้งสู่ราษฎรผู้ยากไร้ เหมือนน้ำจากยอดดอยไหลสู่ที่ราบอย่างไร้พรมแดน 

          ศูนย์ฝึกอาชีพผาหมี สมเด็จย่าได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จัดตั้งศูนย์บำบัดและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดขึ้นที่บริเวณดอยผาหมีแห่งนี้ เพื่อให้การบำบัดรักษาผู้ติดยาทั้งร่างกายและจิตใจ พร้อมทั้งฝึกฝนอาชีพควบคู่ไปด้วย เพื่อที่จะให้ผู้เข้ารับการบำบัดสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยการที่พึ่งตนเองเมื่อหายเป็นปกติ


          พระธาตุดอยตุง ปฐมเจดีย์แห่งล้านนา สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.1454 ภายในบรรจุพระรากขวัญเบื้องซ้าย (กระดูกไหปลาร้า) ของพระพุทธเจ้า ประดิษฐานอยู่บนยอดเขาสูงของเทือกเขานางนอน ห่างจากพระตำหนักประมาณ 7 กิโลเมตร ตามเส้นทางสายเก่า หรือ 12 กิโลเมตร ตามเส้นทางสายใหม่ ผ่านวัดน้อยดอยตุงจากนั้นเป็นสวนเทพารักษ์ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่สถิตของเทพารักษ์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ซึ่งปกปักรักษาองค์พระธาตุ

          หมู่บ้านชาวเขา ในบริเวณพื้นที่โครงการพัฒนาดอยตุงมี 26 หมู่บ้าน ของชนกลุ่มน้อยหลายเผ่าพันธุ์ ได้แก่ ไทยใหญ่ จีนฮ่อ ชาวเขาเผ่าอาขาและเผ่ามูเซอ แต่ละหมู่บ้านมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมแตกต่างกันไป ชาวบ้านเหล่านี้เข้ามาทำงานและฝึกอาชีพกับโครงการฯ ทำให้มีรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่พวกเขาก็ยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีของเผ่าไว้ได้อย่างดี มีพิธีและงานฉลองประจำเผ่าน่าตื่นตาตลอดทั้งปี

อันดับ 4 น้ำตกทีลอซู



          ทีลอซู เลื่องชื่อในสายน้ำมหึมาที่ไหลบ่าลงจากแผ่นผากลางผืนป่ากับนานากิจกรรมท่องเที่ยวผจญภัยที่เติมสีสันให้กับชีวิตผู้มาเยือน


          น้ำตกทีลอซูเป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและสวยงามที่สุดของเมืองไทย เกิดจากลำห้วยกล้อท้อทั้งสายไหลตกลงจากหน้าผาสูงชันบนภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 900 เมตร ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก อยู่ห่างจากที่ทำการเขตฯ 1.5 กิโลเมตร


          ทีลอซูได้รับการค้นพบเมื่อ 20 กว่าปีก่อน โดยพรานชาวกะเหรี่ยงคนหนึ่งที่เข้าป่ามาล่าสัตว์ คำว่า "ทีลอซู" ก็เป็นภาษากะเหรี่ยง แปลว่าน้ำตกใหญ่ หรือน้ำตกดัง ต่อมากรมป่าไม้ประกาศให้บริเวณนี้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง และหลังจากการสำรวจบุกเบิกในปี พ.ศ.2528 น้ำตกทีลอซูก็เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในแวดวงนักท่องเที่ยวผู้รักธรรมชาติ



          ทีลอซูมีความสวยงามเป็นพิเศษในช่วงฤดูฝนเนื่องจากน้ำฝนที่ตกลงมาจะเพิ่มปริมาณน้ำในลำธารทำให้สายน้ำตกกว้างใหญ่กว่าฤดูอื่น แต่ช่วงฤดูฝนทางเขตฯ ปิดไม่ให้รถยนต์เข้าสู่น้ำตกเพื่อถนอมสภาพทางไม่ให้เสียหายและป้องกันอันตรายแก่ผู้ใช้เส้นทาง โดยนักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการทัวร์กับบริษัทนำเที่ยวซึ่งจะเดินทางด้วยเรือยางแทน และเดินป่าอีกราว 12 กิโลเมตร แต่หากไม่ท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาว-ฤดูร้อนก็สามารถใช้ทางรถยนต์เข้าถึงตัวน้ำตกได้ จึงเป็นช่วงเวลาที่เที่ยวได้สะดวกที่สุด

แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ

          น้ำตกทีลอซู สายน้ำสีขาวสะอาดผืนใหญ่กว้างประมาณ 500 เมตร ไหลตกลงมาจากผาหินปูนสูงประมาณ 200 เมตร ร่มครึ้มด้วยแมกไม้ สายธารน้ำตำแบ่งเป็นสามแนว แนวด้านซ้ายมือใหญ่ที่สุด สูงที่สุด และสวยที่สุด ด้วยธารน้ำหลายสายไหลลดหลั่นเป็นชั้น ๆ แนวกลางสายน้ำไหลลงมาจากหน้าผาสูงชันใกล้เคียงกัน แต่ไม่เป็นชั้นและแคบกว่า ส่วนแนวทางขวามือจะเป็นสายน้ำหลายสายที่สุด ทว่าหน้าผาเตี้ยกว่าสองแนวแรก รวมเข้าด้วยกันเป็นภาพของน้ำตกทีลอซูที่ยิ่งใหญ่และงดงาม ทางเดินสู่ทีลอซูเป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะทาง 1.5 กิโลเมตร ลัดเลาะผ่านเข้าไปท่ามกลางป่าไผ่และป่าเบญจพรรณที่มีป้ายสื่อความหมายเกี่ยวกับธรรมชาติและพืชพรรณตามจุดต่าง ๆ สำหรับนักท่องเที่ยวเบื้องล่างของน้ำตกยังมีเส้นทางเดินท้าขึ้นไปยังจุดชมทิวทัศน์บนยอดเขาฝั่งตรงข้าม เป็นจุดที่มองเห็นน้ำนำทีลอซูได้สวยงามและชัดเจนที่สุด ใช้เวลาเดินไป-กลับประมาณ 2 ชั่วโมง

อันดับ 5 ดอยอ่างขาง


       
          โครงการหลวงดอยอ่างขางพลิกฟื้นผืนป่าเสื่อมโทรมให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ทั้งยังเพิ่มพูนความงดงามด้วยไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาว แต้มแต่งสีสันตระการตาให้ขุนเขา


          ดอยอ่างขางเป็นที่ตั้งของสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง อยู่ในเขตบ้านคุ้ม หมู่ที่ 5 ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1,400 เมตร มีพื้นที่ใช้ในการทำวิจัยประมาณ 1,200 ไร่ เกิดขึ้นจากการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จเยี่ยมราษฎรชาวเขาบนดอย แล้วทอดพระเนตรเห็นการปลูกฝิ่นทำไร่เลื่อนลอยจึงมีพระราชประสงค์ให้ชาวเขาตามดอยต่าง ๆ ในภาคเหนือเลิกการปลูกฝิ่น ทรงสละพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวน 1,500 บาท ซื้อที่ดินในบริเวณดอยอ่างขางส่วนหนึ่ง แล้วโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งโครงการหลวงขึ้นเป็นโครงการส่วนพระองค์ในปี พ.ศ. 2512 โดยหม่อมเจ้าภีศเดช  รัชนี เป็นองค์ประธานมูลนิธิโครงการหลวง สถานีเกษตรหลวงอ่างขางใช้เป็นสถานที่วิจัยทดลองปลูกพืชเมืองหนาวชนิดต่าง ๆ ได้แก่ ไม้ผล พืชผัก และไม้ดอกเมืองหนาว เพื่อเป็นตัวอย่างแก่เกษตรกรชาวเขาในการนำพืชเหล่านี้มาเพาะปลูกเป็นอาชีพ

แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ

          เส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ มี 2 เส้นทาง คือ เส้นทางเดินชมกุหลาบพันปี อยู่ด้านนอก ห่างจากปากทางเข้าสถานีฯ ประมาณ 4.5 กิโลเมตร โดยจุดที่สูงที่สุดคือเนินพันเก้า ซึ่งมีความสูงถึง 1,928 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง นักท่องเที่ยวจะต้องเดินทางเท้าเพื่อขึ้นไปถึงจุดยอดเป็นระยะทาง 500-800 เมตร ซึ่งจะชมความงามของกุหลาบพันปีได้ในช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ ส่วนในช่วงเดือนอื่นก็ยังจะมีพรรณไม้แปลกตาให้ได้ชื่นชมอีกเช่นกัน เส้นทางศึกษาธรรมชาติของสถานีเกษตรหลวงอ่างขางนั้นกำหนดขึ้นบริเวณรอบสถานีฯ มีเส้นทางทั้งหมด 10 เส้นทางด้วยกัน และต้นไม้ที่ปลูกในเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาตินั้น จะเป็นต้นไม้ที่นำเข้ามาจากไต้หวันทั้งหมด


          เส้นทางขี่จักรยานชมธรรมชาติ เป็นเส้นทางจากรีสอร์ตธรรมชาติอ่างขางเข้าเยี่ยมชมด้านในสถานีฯ ตลอดทางก็จะได้ชมธรรมชาติและแปลงเกษตรทดลอง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเช่าจักรยานจากสโมสรอ่างขางได้ หรือหากอยากเปลี่ยนบรรยากาศขี่ล่อ สัตว์ลูกผสมระหว่างม้าและลา ซึ่งแต่เดิมเป็นสัตว์พาหนะสำคัญของชาวเขาบนดอยแถบนี้ ก็สามารถติดต่อได้ที่สโมสรอ่างขางเช่นกัน


          กิจกรรมดูนก ดอยอ่างขางเป็นสถานที่ที่มีนกมากมายกว่า 1,000 ชนิด บางชนิดเป็นนกที่ใกล้สูญพันธุ์หาดูได้ยาก จุดที่เหมาะสำหรับการดูนก คือ บริเวณหน่วยจัดการต้นน้ำแม่เผอะบริเวณรอบรีสอร์ตธรรมชาติอ่างขาง และเส้นทางศึกษาธรรมชาติด้านหลังสำนักงานของสถานีฯ

อันดับ 6 หมู่เกาะพีพี





          หมู่เกาะพีพี เทือกเขาหินปูนกลางน้ำสีครามใส หาดทรายงามขาวสะอาดประกอบกันเป็นภูมิทัศน์ตระการตาที่มีเสน่ห์เฉพาะกิจ


          หมู่เกาะพีพีอยู่ห่างออกไปในทะเลราว 40 กิโลเมตร ในเขตของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพีท้องที่อำเภอเมืองฯ จังหวัดกระบี่ มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 387 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ด้านทิศตะวันตกของภาคใต้ในทะเลอันดามัน ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาหินปูนกลางน้ำ อุดมด้วยปะการัง และทิวทัศน์ใต้ทะเลที่งดงาม


ที่มา:http://travel.kapook.com/view5569.html  โดย  ภาคภูมิ  น้อยวัฒน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น